วันพุธที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2552

บทที่ 7 โทรทัศน์ NBT กับ ดร.เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง

บทที่ ๗ ตอน : โทรทัศน์ NBT กับ ดร. เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง ?!

ขอสวัสดีท่านผู้อ่านเหมือนเช่นเคย ขอทักทายว่าท่านคงได้อ่านบทที่ ๖ ผ่านไปแล้ววันนี้ ผมขอส่ง "ใบปลิวกู้ชาติ" บทที่ ๗ มารบกวนสมาธิของท่านผู้อ่านตั้งแต่เช้าตรูเลยครับ

เรื่องมีอยู่ว่า หลังจากได้ไปเวียนเทียนที่ท้องสนามหลวง และร่วมอภิปรายเนื่องในวันเข้าพรรษา เมื่อวันที่ ๘ กรกฎาคม ๒๕๕๒ ก็รีบกลับเข้าบ้าน แล้วเปิดชมข่าวจากสถานีโทรทัศน์หลายช่อง ทั้งประเภทสถานีโทรทัศน์กระแสหลัก และสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมทั้งหลาย โดยเฉพาะได้แก่สถานี D Station ซึ่งมาในนาม "เสียงประชาชน" หรือ People Voice[P Voice] เมื่อได้ชมข่าวไปบ้างเล็กน้อย ผมได้หมุนจอไปที่ NBT อันเป็นสถานีโทรทัศน์กระแสหลักที่ฝ่ายรัฐบาลใช้เป็นเครื่องมือโฆษณาประชาสัมพันธ์ และใช้เป็นเวทีฟาดฟันฝ่ายตรงกันข้ามให้ย่อยยับ อันหมายถึง พ.ต.ท. ดร. ทักษิณ ชินวัตร และพรรคเพื่อไทย ที่กำลังเป็นฝ่ายค้าน

เวลาระหว่าง ๒๑.๐๐ น. ถึง ๒๑.๔๕ น. ผมได้ชมการอภิปรายถล่มทักษิณ ในชื่อราย การว่า "ลงเอยอย่างไร" ว่าด้วยตอน : "ไม่มีแผ่นดินอยู่ ก็ต้อง รู้ทัน" โดยมีพิธีกรชายหน้าตาคมเข้ม ฝีปากจัด ผมจำชื่อไม่ได้ จำได้แต่พวกวิทยากรบางคนที่เข้าร่วมรายการนี้ เช่น ดร.เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง น.ต. ประสงค์ สุ่นศิริ น.พ. เกษม ตันติผลาชีวะ และคุณปานเทพ เป็นต้น แต่ก็ยังมีอีก ๒ - ๓ คนที่ผมจดชื่อไม่ทัน
รายการในคืนวันที่ ๘ ก.ค. ๕๒ เป็นรายการถล่มเละทักษิณแบบสุดเหยียดไปเลย คนที่เป็นหัว เรือใหญ่ในการจัดทำรายการนี้ยังไงเสียก็ต้องเป็นฝีมือของ ดร. เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง โดยมีรูปแบบจำลองมาจากรายการ "ตามหาแก่นธรรม" ที่เคยออกอากาศแพร่ภาพเล่นงานวัดพระธรรมกายเมื่อหลายปีก่อน หวังว่าพี่น้องชาวพุทธคงจะจำได้ วันนี้ เขากลับมาอีกแล้ว เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง เขากลับมาในรายการถล่มทักษิณ เพื่อไม่ให้เสียเวลาผมขอเข้าเรื่องเสียเลย ดังนี้

พิธีกรชายหน้าตาคมเข้มคนนั้น พูดนำร่องแล้วถามคนชื่อ "ปานเทพ" พอถามปุ๊บก็บรรยายปั๊บ พูดจาใส่ร้ายป้ายปี "พ.ต.ท. ดร. ทักษิณ ชินวัตร" แบบไม่มีความดีอะไรเลยแม้แต่น้อย รวมแล้วมีแต่ความเลว...เลวสุดสุด เรียกว่าบรรยายจักกี่ประโยคก็ตามไม่มีความดีเลย

นอกจากไม่มีความดีดังที่ผมเล่ามานี้ ยังตีความได้ว่า พ.ต.ท. ดร. ทักษิณ ชินวัตร เป็นอันตรายอย่าง ร้ายแรงต่อประเทศชาติ บ้านเมือง ผมฟังแล้วงง นึกไม่ถึงเลยว่าสถานี NBT ได้ใช้เวทีของชาติ ทำลายคนในชาติเดียวกันร้าย แรงขนาดนี้

ต่อมา ดร. เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง ได้ถามขึ้น ผมจำประโยคคำถามไม่ได้ แต่บนคำถามนี้ ได้ทำ ให้ น.ต. ประสงค์ สุ่นศิริ เก็บเอาคำถามมาบรรยายอย่างยืดยาวสรุปได้ความว่า "ตัวของ น.ต. ประ สงค์เอง ได้รู้เรื่องความไม่ดีของทักษิณมาเนิ่นนาน โดยได้เล่าว่าในสมัยนั้น ตัวของเขาเป็นเลขาธิการ ใหญ่ของหน่วยข่าวกรองได้รู้ความลี้ลับมามากแล้วได้พูดถึงสถานการณ์ปัจจุบันว่า พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร เป็นอันตรายต่อความมั่นคงของแผ่นดิน

เมื่อพูดอย่างนี้แล้วก็ได้พูดถึงมวลชนในภาคเหนือ และ ภาคอีสานว่า ระดับตำบลกับระดับเมือง ทั้งหลายนั้นรู้จักความเลวของทักษิณชัดเจน แต่ในระดับหมู่บ้าน ยังไม่ดีขึ้น อันแสดงให้เข้าใจว่าชาว บ้านยังพากันรักทักษิณอยู่ จึงถือได้ว่ายังไม่ดีขึ้น

นายแพทย์เกษม ตันติผลาชีวะ ได้พูดในเชิงแพทย์วิทยา บอกอาการผิดปกติหลายประโยค สรุปแล้วถือว่าเป็นการ "ใบ้ทำลาย" ทักษิณ ซึ่งเป็นการใช้วิชาแพทย์เข้ามาช่วยเป็นหลักให้ประชาชนผู้ รับชมและรับฟังเกิดความคล้อยตาม จะได้เชื่อว่า "พ.ต.ท. ดร. ทักษิณ ชินวัตร" มีต่อมที่เป็นตัวพิษ คอยปล่อยออกมาให้ดำเนินการที่ผิดพลาด

ยังมีชายผู้สุงอายุอีกท่านหนึ่ง พูดถึงการใช้คำว่าการดื่มน้ำพิพัฒน์ฯ ต่อหน้าพระพักตร์ ดื่มแล้วกลับทรยศ ไม่มีความจงรักภักดีอะไรทำนองนั้น

ผมได้ยินคำพูดประโยคสำคัญที่รายการนี้ได้กล่าวตรงกันก็คือ การกล่าวว่า ถ้าไม่มีคนชื่อ ทักษิณ เสียคนเดียว ทุกอย่างก็จะดีขึ้น ผมได้ฟังแล้วแสนจะตกใจ เพราะคำพูดเช่นนี้หมายถึง การสื่อให้สังคมไทยทั้งสังมคมรู้ทราบกันเอาไว้ว่าอย่าปล่อยให้ทักษิณ ชินวัตร มีลมหายใจอยู่ต่อไป จะต้องช่วยกันหาทางทำลายให้สิ้นไปจากแผ่นดิน

หลังจากได้รับฟังทีวี NBT รายการนี้ผ่านไปประมาณ ๕ นาที ผมนั่งงงอยู่อีกอึดใจหนึ่ง ผมรู้สึกหดหู่ มองไม่เห็นเส้นทางของความสามัคคีว่าเดินทางมาบรรจบพบกันได้อย่างไร ผมว่ารายการที่ ว่านี้ รัฐบาล (พรรคประชาธิปัตย์) ทำไมจึงไม่ห้ามหรือว่าเป็นผู้สร้างพล้อท และสร้างสคริป อยู่เบื้องหลัง

หากพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ขัดขวาง ไม่ประกาศห้าม ก็จะทำให้พวกนี้ใช้เวทีโทรทัศน์ของชาติ เอาไปบ่อนทำลายความมั่นคงของประเทศ

คน ๒ คนทื่ผมยังจำติดหูติดตาก็คือ น.ต. ประสงค์ สุ่นศิริ กับ ดร. เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง พากัน คัดค้านขัดขวางไม่ให้บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนุญว่าศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำชาติ แล้วได้อภิปราย โน้มน้าวจิตใจผู้คนให้เห็นคล้อยถามว่า ถ้าทำอย่างนั้น จะทำให้เกิดความแตกแยก

วันนี้ ชาย ๒ คนทีว่านี้กำลังมาในบทบาทใหม่ ขัดขวางการสร้างความสมานฉันท์ ผมเชื่อว่าอำมาตย์ทั้งหลายเข้าข้างเจิมศักดิ์และเข้าข้างพวกที่ด่าทักษิณ

ถ้ายังเป็นเช่นนี้อยู่ต่อไป ทำนายล่วงหน้าได้เลยว่า ความเลวร้ายกำลังจะสุกงอม...หากสุก งอมเต็มที่เมื่อใด เมื่อนั้น ประเทศไทยจะนองเลือดสมเจตนาของพวกที่ต้องการล้มเจ้าให้หมดไปจากสยาม ?!

จบบทที่ ๗ สอาด จันทร์ดี

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น