วันพุธที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2552

บทที่ 26 แถลงการณ์ถึงองคามันดี

บทที่ ๒๖ ตอน : แถลงการณ์ถึงองคามันดี !(บางคน)

เรียนท่านผู้อ่าน "ใบปลิวกู้ชาติ" ที่รักทั้งหลาย ผมได้เขียน "บทความ" ส่งให้ท่านอ่าน ผ่านไปแล้ว ๒๕ บท ซึ่งผมได้ตกลงกับ คุณปิยะณัฐ ภัทรพล ว่าจะเขียนไปเรื่อย ๆ ยังไม่มีกำหนดหยุด ข้อเขียนทั้งหมด จะได้รับการแปลเป็น ภาษาอังกฤษ แต่จะยืนหยัดภาคภาษาไทยเอาไว้เป็นหลัก โดยจะมี "การอ่าน" แล้วส่งเสียงไปตามเครือข่าย [Net Work] ที่มีอยู่ ให้ท่านที่เป็นแฟนทั้งหลาย ได้อ่านและได้รับฟังด้วยครับ

ขอกราบเรียนอีกครั้งว่า ความตั้งใจอันแท้จริงในการเขียน "ใบปลิวกู้ชาติ" ก็เพื่อจะได้เป็น "ความคิดเห็น" เพื่อประโยชน์ของชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ อันเป็นประโยชน์รวม ของคนไทยทั้งชาติ

วันนี้ขอเขียนแถลงการณ์ถึง "องคามันดี(บางคน)" (บทที่ ๒๖) ซึ่งจะมีถ้อยคำแบบไหนอย่างไร ก็ขอให้ท่านอ่านดูเถิดครับ พร้อมกับโปรดพิจารณาเอาเองด้วยว่า แถลงการณ์นี้มีความเหมาะสมหรือไม่ ? หรือจะตำหนิอย่างไร เชิญได้เลยพระคุณท่าน

ขอเริ้มต้นว่า "องคามันดี" คือองค์กรสำคัญในระบอบการปกครองที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นองค์พระประมุข หน้าที่ขององคามันดีมีความสำคัญยิ่ง เพราะว่าองคามันดีทุกคนมีหน้าที่ "ดำเนินการ" รักษาจารีตประเพณีของประเทศให้ตั้งอยู่อย่างมั่นคง จารีตประเพณีเก่าแก่ดั้งเดิม ได้แก่

พระมหากษัตริย์ทรงเป็นที่เคารพสักการะของพสกนิกรทั้งปวง ทรงเป็นศูนย์รวมของความรัก ความศรัทธา ทรงอยู่เหนือข้อขัดแย้งด้วยประการทั้งปวง โดยมีความเกี่ยวข้องกับ "ประชาชน" หรือพสกนิกรอย่างเหนียวแน่นเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ไม่แตกแยก ไม่แบ่งฝ่าย รักษาความเป็นเอกราชและประชาธิปไตยตั้งสูงสุด อันหมายถึง ปากท้อง การมีอยู่ มีกิน มีการพัฒนาให้ทัดเทียมนานาอารยะประเทศ มีรัฐสวัสดิการ หลุดพ้นจากความยากจน ตั้งแน่ในเมืองไปจนถึงหัวเมือง

องคามันดีไม่ใช้อำนาจนอกรัฐธรรมนูญ ไม่แทรกแซงอำนาจโดยพละการกล่าวโดยรวม จารีตประเพณีที่แท้จริง ได้แก่การรักษาประชาชนให้ตั้งมั่นอยู่ใน ความรักต่อสถาบันโดยมิเสื่อมคลาย ถ้าจะมีเหตุอันจะทำให้เสื่อมคลาย จะต้อง"แก้ไข" และขยับให้เกิดความหนักแน่นต่อสถาบันพระเจ้าแผ่นดินด้วยยุทธศาสตร์ที่หลักแหลม และยุทธวิธีที่ทันสมัย อย่าปล่อยให้เกิดความหละหลวมผิดพลาด ไม่ว่ากรณีใด ๆ

ข้อความเกี่ยวกับ "จารีตประเพณี" ดังที่กล่าวมา คือจุดเริ่มต้นของแถลงการณ์ขอรับ ผมขอเขียนแถลงการณ์ต่อไปว่า "ผมได้อ่านหนังสือพิมพ์มติชนฉบับเช้าวันที่ ๒๙ กรกฎาคม ๒๕๕๒" มีข้อความพาดหัวตัวหนังสือขาว บนพื้นแดงว่า "องคามันดีประชุม ชี้ฎีกาไม่เหมาะสม-ขัด กม." แล้วมีการโปรยหัวรองลงมาว่า "ห่วงรุนแรง แนะแม้ว กลับประเทศ" โดยมีการเริ่มต้นของเนื้อข่าวว่า "ที่ประชุมองคามันดียัน ล่าชื่อประชาชนถวายฎีกาขอ อภัยโทษ "แม้ว" ทำไม่ได้


ท่านองคามันดีทั้งหลายขอรับ ขอให้ท่านจงตั้งคณะกรรมการขึ้นมาอ่าน "แถลงการณ์" ฉบับนี้ด้วยการให้ความสำคัญ อย่าคิดว่าแถลงการณ์ประเภทนี้ มันคือศัตรูของพวกท่าน

ผมขอกล่าวว่า หน้าที่ของพวกท่าน คือผู้รักษาจารีตประเพณี "ประเทศ และสถาบันพระมหากษัตริย์" ให้มี ความผูกพันเป็นโซ่เงินโซ่ทอง เป็นโซ่แห่งความรัก มิใช่โซ่แห่งความเกลียดชัง

ท่านจะต้องมีคณะทำงาน (สายลับ) คอยสดับรับฟังจากทุกสารทิศ อย่าปล่อย ให้เกิดหนอนบ่อนใส้ ไม่ว่ากรณีใดๆ

พวกท่านจะต้องคำนึงถึงองค์รัชทายาทจากรัชกาลไปสู่รัชกาลโดยไม่มีที่สิ้นสุดจะต้อง "สื่อ" ความผูกพันให้สวยสดงดงามตลอดกาล

ในสิ่งที่ผมได้กล่าวมา พวกท่านได้ "ทำลาย" ความมั่นคงของสถาบันด้วยมือของท่านเอง โดย ฯพณฯ พลเอก Sensor (หงอก) ...... องคามันดี...มิได้แสดงตนอยู่ในความเป็นกลาง เมื่อเกิดกรณีข้อขัดแย้งขึ้นมา (เสื้อเหลืองกับเสื้อแดง)พลเอก พลเอก Sensor (หงอก) ไม่อาจทำหน้าที่แยกคน ๒ ฝ่ายออกจากการทะเลาวิวาทกันได้

ตรงกันข้าม ท่านกลายเป็นฝ่ายเสื้อเหลือง และเห็นเสื้อแดงเป็นศัตรู ทำให้คน ๒ กลุ่ม ฮึ่มฮั่มจะฆ่ากันให้ได้ มิใช่แต่เท่านั้น เมื่อกลุ่มนายสนธิ ลิ้มทองกุล ใช้เวทีในทำเนียบรัฐบาล ยกย่องพวกเสื้อเหลืองว่าเป็น"ผู้ปกป้องสถาบัน" แล้วกล่าวหา "คนเสื้อแดง" ว่าเป็นภัยต่อสถาบันอย่างร้ายแรง จนกลายเป็นข้อขัดแย้งบานปลาย

ไม่ปรากฏว่า พลเอก Sensor (หงอก) ได้ออกมาห้ามปราม ตรงกันข้าม ดูเหมือนว่ายิ่งเข้าข้างทำให้พวก "เสื้อเหลือง" ฮึกเหิม ได้ใจ แล้วพากันอาละวาด สนั่นเมืองจนกลายอัน "อันธพาลใหญ่" ไล่ทุบตีผู้คนตามใจชอบ

มิใช่แต่เท่านี้ ยังมีอีกเรื่อง กล่าวคือ เมื่อ "นาย Sensor (เทือก) " ในฐานะรอง............. ดูแลด้านความมั่นคงของประเทศ ได้ใช้เวที "รัฐสภา" กล่าวหา พ.ต.ท. ดร. ทักษิณ ชินวัตร ว่าใฝ่จะเป็นประธานาธิปบดี ก็ได้มีองคามันดีอีกท่านหนึ่งออกมาขย่มตาม ด้วยการ กล่าวหาในถ้อยคำที่เหมือนกัน อันเป็นปมแห่ง ข้อขัดแย้งที่รุนแรงยิ่งกว่าศาลพิพากษาให้จำคุก ๒ ปี เสียด้วยซ้ำ

ที่ว่ารุนแรงก็เพราะว่าการกล่าวหาในครั้งนี้ ได้ทำให้คนเสื้อแดงอีก ๑๙ ล้านคน หรืออาจมากกว่านี้ พากันเข้าข้าง พ.ต.ท. ดร. ทักษิณ ชินวัตร ตัวเลขคนเข้าข้าง ท่านนายกทักษิณ ดูได้จากการจัดงานวันคล้ายวันเกิด ๒๖ กรกฎาคม ๒๕๕๒ ที่วัด ที่บ้าน ที่โรงเรียน สโมสร และแต่ละครัวเรือน พากัน "ทำพิธีสงฆ์" ยิ่งใหญ่ อย่างไม่เคยมีมาก่อน อันเป็น "ตัวเลข" ที่คาดเดาได้ไม่ยากเลย

สิ่งที่ผมกล่าวมานี้ เมื่อพิเคราะถึง "เนื้อหา" อันแท้จริงแล้ว จะพบว่า สถาบันของประเทศชาติ ระหว่างพระเจ้าแผ่นดินกับประชาชน เกิดความบาดหมางกัน เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของชาติไทย สุดจะยับยั้งเอาไว้ได้

ถามว่าเรื่องอันชั่วร้ายนี้เกิดจากใคร ใครเป็นคนก่อขึ้น

ขอถามต่อว่า "พ.ต.ท. ดร. ทักษิณ ชินวัตร" ได้กระทำอะไรอันเป็นเครื่องหมายว่าจะเป็นประธานาธิบดี

และถามต่อไปว่า มีหลักฐานหรือไม่ ถ้ามีทำไมไม่ตั้งข้อหาแล้วจับตัว ส่งศาล แต่ถ้าไม่มีหลักฐาน แล้วกล่าวหาออกมาทำไม

คำถามง่ายๆแบบนี้ ผมจึงสรุปเอาเองว่า "องคามันดี ทั้งคณะดำเนินนโยบายผิดพลาด รัฐบาลพรรคมะแลงสาบ กับ องคามันดี เป็นแนวร่วมของกันและกัน"

ทำให้ผมสรุปได้มากไปกว่านี้ องคามันดี ทั้งคณะมิได้มีความ "จงรักภักดี" ดังที่ได้พากันเอ่ยปากออกมา

ถ้าพวกท่าน มีความจงรักภักดี ย่อมจะเอาใจใส่ต่อ "จารีตประเพณี" อย่างทันสมัยที่สุด โดยไม่เอาแนวทางเผด็จการและป่าเถื่อนมาใช้ในการระดมความรักจากประชาชน

เรื่องเดียวกันนี้ ผมมีความเห็นไปถึงพรรคร่วมรัฐบาลทั้งหลาย พวกเขาถูกม่านบังตาจนมืดบอด มองไม่เห็นแสงสว่าง แล้วพากัน "ดาหน้า" ออกมาขัดขวางการถวายฎีกา

องคามันดีทำไมไม่รีบ "อุ้มรับ" เอาถวายฎีกาขึ้นไปกราบบังคมทูล พวกท่านออกมาขัดขวางทำไม ถ้าพวกท่านรีบขานรับแล้วพากันกราบบังคมทูลว่าบ้านเมืองจะสงบ แผ่นดินจะร่มเย็น พระบารมีจะแผ่ไพศาล แล้วพากันป่าวประกาศแก่ประชาชน ว่าพระเจ้าแผ่นดินกับประชาชนเปรียบเสมือน "ปลากับน้ำ" ปลาขาดน้ำไม่ได้ แต่ปลานั้น ถ้าไม่มีน้ำ ปลาตายแน่

ผมจึงขอส่ง "แถลงการณ์" นี้ถึง องคามันดี ด้วยความเชื่อว่าพวกท่านยังเป็นคนไทยแท้ที่มี ความจงรักภักดี พวกท่านมีหน้าที่ตามจารีตประเพณี พวกท่านจะพากัน รักษาสถาบันให้มั่นคง หรือว่าจะเป็น "ผู้วางแผน" ทำให้สถาบันผุกร่อนเสียเอง อยู่ที่ตัวของพวกท่านทั้งหมด

ท้ายที่สุดนี้ ผมมีความเชื่อว่าพวกท่านรู้ดีว่าสังคมไทยเป็นเช่นไร รู้ดีว่าใครคือมิตร ใครคือศัตรู

แต่พวกท่านทำประหนึ่งไม่รู้อะไรเลย ผมจึงอ่านว่า "องคามันดีบางคน" คือตัวการ หวังจะล้มเจ้า จึงโหมให้ประชาชนตีกัน จะได้เกิดเรื่องร้ายแรง

จึงขอส่งแถลงการณ์นี้ผ่านประชาชน ถึงองคามันดีทุกท่าน ! พร้อมกับขอส่งต่อไปยัง กองอำนวยการรักษาความมั่นคงแห่งชาติ ไม่ว่าจะเป็น กอ. รมน. หรือสภาความมั่นคงใดๆ ก็ตาม ถ้าท่านคือคนรักชาติ รักสถาบัน ท่านต้องรีบอุ้มรับเอาฎีกา ไปกราบบังคมทูล

มิใช่ พากันออกมา "ขัดขวาง" จนคนที่เขาถวายฎีกาเกิดความรู้สึกว่า ประเทศไทยไร้มาตรฐาน ไร้ความเป็นธรรมทุกหย่อมหญ้าฯ !

จบบทที่ ๒๖ / สอาด จันทร์ดี

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น