วันพฤหัสบดีที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2552

บทที่ 36 ศึกษาราชวงศ์รัสเซียล่มสลายด้วยเหตุใด

บทที่ ๓๖ ศึกษาราชวงศ์รัสเซีย ล่มสลายด้วยเหตุใด ?!

ขอแสดงความพึงพอใจที่ท่านผู้อ่านได้ขยันอ่าน “ใบปลิวกู้ชาติ”มาจนถึงบทที่ ๓๕ ! ผมจึงอยากเรียนให้ท่านได้รับทราบว่า “ผมมี กำลังใจ” ที่จะผลิตงานออกมาให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ตราบใดที่ ยังมีกำลังวังชาพอทำงานไหว ก็หวังว่าใบปลิวกู้ชาติทุกฉบับจะสามารถ ทำความเข้าใจต่อปัญหาความขัดข้องทางการเมืองในประเทศไทยของเรา รวมไปถึงจะได้เข้าใจสภาพความเป็นจริงที่พวกเรากำลังเผชิญปัญหา กับพวกเผด็จการ

ใบปลิวกู้ชาติบทนี้อยู่ในห้วงวันที่ ๑๕ สิงหาคม/๕๒ ที่ คนเสื้อแดงมีนัดหมายที่จะถวายฎีกาในวันที่ ๑๗ สิงหาคม/๕๒ อันเป็นวันระทึกใจอย่างยิ่งของพสกนิกรว่าจะได้ถวายฎีกา หรือจะถูก พวก “พญามาร” ขัดขวางด้วยวิธีการต่างๆดังที่ได้พบเห็นว่าพวกเขา แห่ไปขู่เข็นข้าราชการทั่วประเทศให้แห่ออกมาต่อต้านคนเสื้อแดง

วันนี้ผมขอเขียนใบปลิวกู้ชาติ บทที่ ๓๖ ว่าด้วยเรื่องราว ของราชวงศ์รัสเซีย ที่ล่มสลายไป “โดยที่คนไทยไม่มีใครหยิบยก เอาเรื่องนี้ขึ้นมาศึกษาเพื่อการเรียนรู้เลย” คนไทยจึงไม่ทราบต้นสาย ปลายเหตุที่แท้จริง ส่วนใหญ่จะพากันเข้าใจว่า “คอมมิวนิสต์” เป็นตัวการล้มล้างระบอบการปกครองของรัสเซีย แล้วก็พากันเข้าใจ สืบต่อกันมาจนถึงวันนี้ว่า ราชวงศ์รัสเซียถูกคอมมิวนิสต์ทำลาย ?! จนไม่มีอะไรเหลือ

ไม่มีใครกล่าวถึง “ความชั่วช้า” ที่พวกอำมาตย์ใหญ่ในรัสเซีย ปอกลอกพระเจ้าแผ่นดินและพากัน “พินพพิเนา” เพ็จทูลถ้วยลีลา ของพวกอำมาตย์เลวทั้งหลาย ทำให้พระราชวงศ์ที่สวยสดงดมาด้วย ระยะเวลาอันยาวนาน กลายเป็น “ซาตาน” ที่น่าขยะแยงขึ้นมา

ท่านผู้อ่านครับ ผมขอกล่าวว่าในหนังสือประวัติศาสตร์โลก ต่างพากัน “บิดเบือน” ความเป็นจริง ทั้งนี้เนื่องจาก “ทุนนิยมใหญ่” เกลียดชังลัทธิคอมมิวนิสต์ จึงมุ่งเข้าหาเนื้อในของลัทธิคอมมิวนิสต์ แล้วดึงเอาเนื้อในมาเป็น “แก่นแกน” ในการเขียนประวัติศาสตร์ด้วยการ “ทิ้ง” เนื้อหาความผิดพลาดของพระมหากษัตริย์รัสเซียไปจนสิ้น เช่นพระจักรพรรดิ์อาเล็กซานเดอร์ที่ ๒ (ปี ค.ศ. ๑๘๘๕๕-๑๘๘๑) พระจักรพรรดิ์อาเล็กซานเดอร์ที่ ๓ (๑๘๘๑-๑๘๙๔) และพระจักรพรรค นิโคลัสที่ ๒ (๑๘๙๔ – ๑๙๑๗) อันเป็นความผิดพลาดที่เกิดจาก พวกอำมาตย์ใหญ่พากัน “บีบคั้น”ประชาชน ทำให้ประชาชน ได้รับความบอบช้ำแสนสาหัส

จนกลายเป็นต้นเหตุทำให้ “วี.ไอ. เลนิน” นำแนวคิดของ คาร์ล มาร์กซ เอาขึ้นมาเป็นทฤษฎีชี้นำประเทศใหม่ ทั้งในทางเศรษฐกิจ การเมือง และระบอบการปกครอง !

นักประวัติศาสตร์บิดเบือนความจริงที่เกิดตั้งแต่ปี ค.ศ. ๑๘๕๕ มาจนถึง ค.ศ. ๑๙๑๗ ทำให้ชาวโลกไม่รู้ความจริง แต่กลับไปรู้อยู่เรื่อง เดียวว่าคอมมิวนิสต์คือตัวการใหญ่ล้มล้างระบอบการปกครองของ ประเทศรัสเซีย

ผมเกิดความรู้สึกว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในประเทศรัสเซีย ครั้งกระโน้น ซึ่งบัดนี้กำลังเพาะตัวขึ้นในพระราชอาณาจักรไทย โดยพวก “อำมาตย์” ที่โง่เง่าเอาแต่จะกอบโกยไม่รู้จักอิ่ม เมื่อกอบโกยไม่สะดวกก็พากันเล่นงานคู่แข่งทางการเมือง (พ.ต.ท. ดร. ทักษิณ ชินวัตร)! กล่าวหาทักษิณว่าเป็นคนชั่วร้าย ของสถาบัน พร้อมกับได้ยกย่อง “คนเสื้อเหลือง” ว่าเป็นผู้ที่มีความ จงรักภักดีสูงส่ง ส่วนคนเสื้อแดงที่เข้าข้างทักษิณต่างตกเป็นเหยื่อ ถูกกล่าวหาว่าเป็น “คอมมิวนิสต์” สุดท้ายกลายเป็นพวกที่เป็นภัย ต่อระบอบการปกครองดังที่ทุกท่านต่างพากันทราบดี

เป็นเพราะเหตุนี้ผมจึงอยากเขียนถึงสภาวะที่เป็นจริงในรัสเซีย เอามาเป็นตัวอย่างให้สังคมไทยได้ลืมตา “ดู” ความจริง ก่อนที่มัน จะสายเกินไป

อีกประการหนึ่ง ผมมีความเห็นว่า “ถ้า” ประเทศไทย “ไม่ได้ ปกครอง” ด้วยระบอบประชาธิปไตยอันมีกษัตริย์ทรงเป็นองค์ประมุข เราจะไม่ศึกษาปัญหาราชวงศ์รัสเซียเลยแม้แต่แง่มุมเดียว “ก็ไม่เป็นไร” !

และไม่จำเป็นต้องเขียนเรื่องนี้เอามาเป็นตัวอย่าง แต่ด้วยเหตุว่าประเทศไทยได้ปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตย อันมี “กษัตริย์” ทรงเป็นองค์ประมุข จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องศึกษา หาทางเรียนรู้ปัญหาที่แท้จริงให้ครบทุกด้าน ทั้งนี้ก็เพื่อจะได้นำเอาสิ่ง ที่ได้รู้ได้เข้าใจทั้งหลายเหล่านั้นเอามาเป็นแนวทางแก้ไขตัวเองเสีย ในวันนี้ ไม่ปล่อยให้สายเกินแก้

ก่อนที่ผมจะเริ่มชี้แจงแถลงไขเกี่ยวกับเรื่องนี้ ผมขอเรียนว่า บรรยากาศของประเทศไทยในวันนี้มีลักษณะเหมือนคน “ใบ้กิน” ?! กล่าวคือไม่มีใครพูดความจริง ทำให้ปากของคนไทยที่พอจะพูดได้ใน หมู่ชนชั้นสูงทุกระดับกลายเป็นคน พูดอะไรไม่ได้ จนกลาย “เป็นคน ใบ้” ไปทั้งเมือง ทำราวกับว่าประเทศนี้เมืองนี้มีแต่คนชื่อทักษิณเท่านั้น ที่เป็นตัวอันตรายต่อประเทศ

ผมจึงเรียกคนเหล่านั้น พวกใบ้กิน ?!!

ผมจะยกตัวอย่าง “คนใบ้” ในเมืองไทยให้ท่านดู ท่านจะเห็น ภาพของเรื่องนี้อย่างชัดเจนจากกรณี พันธมิตร เอาม็อบยึดสะพานมัฆวาน ก็ไม่มีใครตำหนิ เอานักรบศรีวิชัยบุกทำลายสถานีโทรทัศน์ NBT ก็ไม่มีใครกล้าเล่นงาน พันธมิตรยึดทำเนียบรัฐบาล ๑๙๓ วัน แล้วกระทำบัดสี พากัน“อุจจาระใส่เก้าอี้นายก” แถมพากันถ่าย ของเหม็นใส่ห้องโถงเพื่อแสดงอาการเหยียบหยามให้มันสะใจ “ก็ไม่มีสื่อฉบับไหนกล้าเขียนถึง” ?!

มิใช่แต่เท่านี้ พวก "พันธมิตร” ยกกองทัพธรรมยึดสนามบิน ดอนเมือง ฆ่าคนตายยัดใส่โกดัง ราวกับว่าบ้านเมืองไม่มีขื่อมีแป ก็ไม่มี ใครกล้าโวย ต่อจากนั้นพวกพันธมิตรพากันบุกไปยึดสนามบิน สุวรรณภูมิ พากันโจรกรรมของมีค่าไปจาก “ดิวตี้ ฟรี” [Duty Free] เรียกว่าขนเป็นคันรถ ก็ไม่มีใครกล้าเอ่ยถึง

พวกเขาทำความชั่วอีกมากมาย เช่นทุบตีตำรวจราชาเทวะ จับถอดเครื่องแบบ บังคับให้เดินเท้าเปล่ากลับโรงพัก รวมไปถึง “น้องโบว์” ตายด้วยระเบิดของตัวเองแท้ๆ ก็ได้รับการยกย่องว่าเป็น ผู้ปกป้องสถาบัน ?! แถมมี “นายตำรวจ” ขนระเบิดจะเอาไปฆ่าคนอื่น แต่มันพลาดขึ้นมาอย่างร้ายแรง ระเบิดใส่ตัวเองแหลกละเอียด ตายเป็นผี สังเวยบาป อย่างนี้เป็นต้นก็ยังพากันยกย่อง

ผมจึงสังเกตเห็นชัดว่า คนไทยกลุ่มคนเสื้อเหลือง พวกกองทัพธรรม สันติอโศก พวกนักการเมืองพรรคประชาธิปัตย์ นักวิชาการ กลุ่มนายทหารใหญ่ และอำมาตย์ใหญ่ สื่อใหญ่ และ พวกองคมนตรี ฯลฯ ต่างพากัน“ใบ้กิน”ไปทั้งเมือง

เรียกว่าใบ้รับประทานอย่างน่าอัศจรรย์ใจที่สุด

แต่สำหรับคนเสื้อแดงนั้น หากทำอะไรผิดพลาดขึ้นมา จะถูก พวกคนใบ้ระเบิดเข้าใส่อย่างสนั่นหวั่นไหว “เช่นนายสมัคร สุนทรเวช ทำครัวออกทีวีก็ถูกให้ออกจากนายก” มิใช่แต่เท่านี้ แม้คนเสื้อแดง ไม่ได้ทำอะไรผิดก็ยังถูกใส่ความให้ได้รับความเจ็บปวดใจอย่าง แสนสาหัส ทำราวกับว่าคนเสื้อแดงมิใช่คนไทยด้วยกัน

ท่านผู้อ่านครับ ท่านไม่สงสัยเลยเชียวหรือว่าเหตุไร จึงเป็น เช่นนี้ไปได้ ?

ผมมีความเห็นว่า ถึงเวลาแล้วที่ทุกสถาบันจะต้องช่วยกัน แสวงหาหนทางแก้ปัญหาให้แก่ประเทศชาติ แต่การแสวงหาแนวทาง

แก้ปัญหานั้น ประการสำคัญจะต้องยอมรับความเป็นจริงทั้งหมด ที่กำลังเกิดขึ้นในประเทศไทย แล้วยกเอาความจริงเหล่านั้นมาเป็น “โจทย์” ของประเทศ เพื่อที่จะได้แก้ไขปัญหาของประเทศได้ อย่างถูกต้อง

ประการต่อมา ต้องหยิบยกเอาปัญหาที่เป็นต้นเหตุทำให้ “ราชวงศ์” ต่างๆในโลกจากหลายประเทศที่ถูกประชาชนโค่นล้ม และถูกทำลายไป เอามาเป็นข้อมูล เช่นการล่มสลายของราชวงศ์ “โรมานอฟ” [Romanov Dynasty] ของประเทศรัสเซีย รวมไปถึงการล่มสลายของกษัตริย์ “โมฮัมหมัด เรชา ปาเลวี” แห่งอิหร่าน เป็นต้น

ผมขอเรียนให้ทราบว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นกับประเทศอิหร่าน ย่อมไม่พ้นไปจาก “การกระทำ”ของพวกอำมาตย์ชั่ว ซึ่งมีทั้งพวกที่ เป็นเหยื่อของ “ซีไอเอ” และ “เคจีบี” [CIA –KGB] ที่ ต่างพากันมุ่งหวังจะเข้าไปตะครุบผลประโยชน์มหาศาลจากดินแดน อิหร่าน

อำมาตย์ชั่วและอำมาตย์เลวต่างพากันรับใช้ต่างชาติ เข่นฆ่าราวี ประชาชนของตนเอง เช่น มีการ “อุ้มหาย” อุ้มฆ่า และลอบสังหาร อย่างป่าเถื่อน

ในห้วงเวลานั้น ผมทำงานอยู่ในประเทศซาอุดิอาระเบีย แล้วย้ายเข้าไปทำงานในอิรัค ต่อมาเมื่อได้เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้น ในประเทศอิหร่าน ผมขยับออกมาทำงานอยู่ในกรุงอัมมาน ประเทศ จอร์แดน ซึ่งมีกษัตริย์เหมือนประเทศไทย

ผมได้รับฟังเรื่องราวอันเป็นความทุกข์แสนสาหัสของประชาชน ชาวอิหร่านอันเกิดจากการกระทำอันแสนชั่วของอำมาตย์ จนทำให้ ประชาชนต้องหันไปขอคำแนะนำจากท่านอิหม่ามใหญ่ ได้แก่ “อะยาตอลลา โคไมนี” (อะยาตอลลา คือฐานะคล้ายพระศาสดาน้อย ผู้รับโองการจากพระเจ้าเอามาดูแลพระศาสนา) ซึ่งประชาชนถือเป็นที่พึ่ง ทางใจในฐานะเป็นอิสลาม

นี้ก็เช่นเดียวกัน ประวัติศาสตร์ได้เขียนเอาไว้ว่า โคไมนีมักใหญ่ ไฝ่สูง ต้องการนำลัทธิ “เทวะวิทยาธิปไตย” [Theocracy] ในแนวศาสนาอิสลามเอามาปกครองประเทศ เช่นเดียวกับ องค์ ดาไล ลามะ ปกครองธิเบต เป็นต้น

พวกที่เขียนประวัติศาสตร์ ได้ละทิ้งความชั่ว (ที่แท้จริง)ไปจนสิ้น

นั้นก็คือไม่กล่าวถึงการกระทำอันชั่วร้ายของอำมาตย์

ผมได้สอบถามด้วยปากของผมเองว่า ทำไมท่านโคไมนี จึงกระทำกับพระมหากษัตริย์ของตนเองอย่างไม่ยำเกรงใด ๆ เลย ผมได้รับคำตอบจากปากของคนอิหร่านเองว่า ถ้าพระมหากษัตริย์ ของเราไม่ทำให้พวกเราเดือดร้อน เราไม่จำเป็นต้องหันหน้าไปพึ่ง โคไมนี

อีกประการหนึ่ง ผมได้รับคำตอบว่า คนที่จะกู้คืนชีวิตคนอิหร่าน ให้กลับสู่ความสงบสุข มีคนกล้าอยู่คนเดียว คือ “อะยาตอลลา โคไมนี” เมื่อท่านโคไมนีกล้าหาญที่จะสู้กับความตายที่พวกอำมาตย์พร้อมที่จะ เข่นฆ่า โดยที่ท่านมิได้หวาดหวั่นเลย

พวกเราจึงถือท่านเป็นที่พึ่ง !

ท่านผู้อ่านที่เคารพ ผมขอกราบเรียนว่า ความเห็นของผม ทั้งที่ เขียนและพูดในโลกไซเบอร์ อาจจะแตกต่างจากเอกสารที่ท่านหาอ่าน ได้ในเว็ปทั่วไป ทั้งนี้เนื่องจากผมเก็บข้อมูลที่ผมรับมาด้วยตนเอง เอามาเป็น “วัตถุดิบ” เพื่อการนำเสนอ

ความเห็นของผมจึงแตกต่างจากเอกสารทั้งหลายอย่างยิ่ง

ความเห็นที่ได้ถ่ายทอดออกมาในวันนี้ เป็นความเห็นที่ผม ตั้งใจอยากให้ กอ.รมน. และสภาความมั่นคงได้พากันอ่าน รวมทั้ง อยากให้ “อำมาตย์-น้อยใหญ่” ได้พบเห็นแนวความคิดที่แตกต่าง จากข้อมูลจอมปลอมจากสายข่าว (สันติบาลและสายลับ) ที่พวกท่าน ส่งออกไปทำงาน

ผมขอมอบ “ใบปลิวกู้ชาติ บทที่ ๓๖” ให้แก่แผ่นดิน สุดแต่ผู้คนในแผ่นดินจะรับเอาไปพิจารณาหรือไม่/หรืออย่างไร ไม่อาจทราบเลยขอรับ ? และ..ผมก็ไม่อาจทราบได้เลยว่าตัวอย่าง จากรัสเซียเรื่องนี้ จะสามารถเข้าถึง “มิติ” อันลี้ลับที่กำลังกัดกิน สังคมไทยได้หรือไม่ ?!!

จบบทที่ ๓๖ / สอาด จันทร์ดี

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น