วันพฤหัสบดีที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2552

บทที่ 41 ระวังแผ่นดินจะลุกเป็นไฟ

บทที่ ๔๑ ตอน : ระวังแผ่นดินจะลุกเป็นไฟ ?!

กรณีรัฐบาลประกาศ กม. มั่นคงในเขตสุสิต กทม. เมื่อวันที่ ๒๔ สิงหาคม ๒๕๕๒ มีค่าเท่ากับการประกาศกฎอัยการศึกในยามภาวะ สงคราม ทำให้คนเสื้อแดงเกิดความรู้สึกผิดหวังกับรัฐบาลอภิสิทธิ์ อย่างรุนแรง เพราะมันเป็นการจงใจขัดขวางคนเสื้อแดงที่จะชุมนุม ใหญ่อีกครั้งใน วันที่ ๓๐ สิงหาคม ๒๕๕๒

ด้วยเหตุนี้ผมจึงขอมอบบทความเรื่องนี้ ถึง ๙ แห่ง อันประกอบด้วย
(๑) นายอภิสิทธ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี
(๒) สภาความมั่นคงแห่งชาติ
(๓) กระทรวงกลาโหม
(๔) กระทรวงมหาดไทย
(๕) ผู้อำนวยการ กอ. รมน. และสันติบาล
(๖) อำมาตย์ใหญ่ และประดา คณะรัฐมนตรี
(๗) อธิการบดี ๒๖ มหาวิทยาลัย และคณาจารย์ทั้งหลาย
(๘) สนธิ ล้มทองกุล “เทวทัตโพธิรักษ์”พลตรี จำลอง ศรีเมือง !
(๙) สื่อกระแสหลักทั้งหลาย ?!

ขอให้ท่านทั้งหลายที่อยู่ในวงเล็บทั้ง ๙ โปรดระลึกเอาไว้ว่า ถ้าประเทศไทยจะเกิดการเข่นฆ่ากันขึ้นมาจนแผ่นดินลุกเป็นไฟก็เพราะ การกระทำอันชั่วช้าของพวกท่าน และหากแม้นว่าพวกท่าน “ไม่ตระหนัก ว่าตัวเองได้กระทำชั่วช้า” แต่กลับตั้งหน้าตั้งตาที่จะเล่นงานคนเสื้อแดง เพราะเข้าใจว่าคนที่ชั่วช้าคือคนเสื้อแดงทั้งหมดและ พ.ต.ท. ดร. ทักษิณ ชินวัตร ก็ยิ่งจะเป็นการตอกลิ่มเข้าไปในหัวใจของ “คนเสื้อแดง” ให้เกิดการแบ่งฝัก แบ่งฝ่ายกันมากขึ้น

ถ้ายังตั้งหน้าตั้งตา “ตอกลิ่ม” ด้วยความเชื่อที่เป็นมิจฉาทิฐิ ก็ยิ่งจะเป็น การเร่งวันเร่งคืนให้คนไทยใกล้จะถึงจะถึงจุดระเบิดเข้ามาไปทุกที

บทความชิ้นนี้เขียนมาเตือนพวกท่านในลำดับที่ ๔๑ !

ขอเริ่มว่า ปัญหาทั้งหมดเกิดมาจากการใส่ร้ายป้ายสี “พรรคไทย รักไทย” และ พ.ต.ท. ดร. ทักษิณ ชินวัตร ตั้งแต่ปี ๒๕๔๔ มาจนถึงปัจจุบัน ยังไม่ยอมเลิก พวกท่านได้ตั้งตัวเป็นโจทย์เล่นงานคู่แข่งทางการเมืองหวังจะ ทำลาย [Destroy] ให้สิ้นซาก ซึ่งตอนแรกก็ได้ใช้ข้อกล่าวหาว่า ได้กระทำทุจริตต่อหน้าที่ หาว่า “คอรัปชั่นเชิงนโยบาย” ข้อกล่าวหามิได้หยุด เพียงแค่นี้ พวกท่านได้ใช้อำนาจเผด็จการ ทำการยึดอำนาจด้วยกำลังทหาร เมื่อวันที่ ๑๙ กันยายน ๒๕๔๙ อันเป็นวิธีการที่ผิดกฎหมายรัฐธรรมนูญ อย่างร้ายแรง มีโทษถึงประหาร

พวกท่านฉีกรัฐธรรมนูญทิ้ง แล้วสร้างรัฐธรรมนูญเผด็จการขึ้นมา พวกท่านคงจำได้ดีว่าแม้จะกระทำหลายวิธีแล้วก็ตามก็ยังไม่อาจ ได้รับชัยชนะ จึงอาศัยวิธีการหักดิบ เอาจนพรรคประชาธิปัตย์ได้เป็นรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้เป็นนายกรัฐมนตรี นายสุเทพ ได้เป็นรอง นายกรัฐมนตรี และได้ดูแลความมั่นคง !
พวกท่านได้ยกระดับ “ข้อกล่าวหา” ก้าวจากเรื่องทุจริตคอรัปชั่น ขึ้นมาเป็นความไม่จงรักภักดี เป็นการ “ยกระดับ” ข้อกล่าวหาให้เกิดกระแส ข้อขัดแย้ง เปลี่ยนจากกระแสของชาวบ้านขึ้นมาเป็นกระแส “ประชาชน กับพระเจ้าแผ่นดิน” ซึ่งพวกท่านคิดว่าถ้ายกระดับขึ้นมาเช่นนี้ จะทำให้ คนเสื้อแดงยอมแพ้แต่โดยดี

เชอะ ! เป็นไง ...คนเสื้อแดงยอมแพ้หรือเปล่า ?เปล่านะ คนเสื้อแดงเขาไม่ได้ตกหลุมพรางขึ้นไปขัดแย้งกับ พระเจ้าแผ่นดินตามที่พวกท่านได้ขุดหลุมขวางหน้าเอาไว้ แต่ที่พวกคนเสื้อแดง ต้องประกาศเคลื่อนไหวใหญ่ในวันที่ ๓๐ สิงหาคม ๒๕๕๒ ก็เพราะพวกท่าน พากันทำความชั่วไม่เลิกยังไงล่ะ รู้ตัวหรือเปล่า ?

เช่นพวกท่านออกมาขวางหนังสือถวายฎีกาทำไม ? ถ้าพวกท่านไม่ขัดขวาง...ไม่กระทำแบบคนไม่หวังดี ? คนเสื้อแดง เขาไม่ออกมาเคลื่อนไหวดอกครับ เพราะหัวใจของคนเสื้อแดงใจจดใจอยู่กับ หนังสือถวายฎีกาที่หวังว่า พ.ต.ท. ดร. ทักษิณ ชินวัตร จะได้รับพระเมตตา ทรงประทานโอกาสให้ได้กลับมาแก้ปัญหาของชาติ คนเสื้อแดงจะพากัน รอฟังฎีกาอยู่ในที่ตั้ง ไม่จำเป็นต้องแสดงพลังอะไรเลย

ขอถามพวก “วงเล็บ ทั้ง ๙” ว่าพวกท่านไม่รู้ตัวเลยเชียวรึว่า ได้ขัดขวางหนังสือถวายฎีกามาตั้งแต่ต้น แม้กระทั่งในขณะนี้ก็ยังไม่ยอมเลิก ขัดขวาง พวกท่านได้ยกระดับ “การขัดขวาง” จากข้อขัดแย้ง “ทางใจ” ไปสู่ความขัดแย้งทาง “ความคิด” อันเป็นการยกระดับที่จะก่อให้เกิด ความบาดหมางระหว่างคนไทยต่อคนไทยด้วยกัน

การประกาศ กม. มั่นคงในเขตดุสิต คือการยกระดับที่เป็นกลยุทธ์ ที่แฝงเร้น ส่อไปในแววปรารถนาดีแต่ประสงค์ร้าย ?!

ผมขอกล่าวว่าสถานการณ์ ณ ห้วงเวลานี้ มีคนอยู่ ๒ กลุ่ม

กล่าวคือกลุ่มหนึ่ง (พวกเผด็จการ) กล่าวหาคนอีกกลุ่มหนึ่งว่า “ไม่มี” ความจงรักภักดี การกล่าวหาเช่นนี้ได้ยัดเยียดความโกรธแค้นชิงชัง ให้เกิดขึ้นในหัวใจดั้งเดิมของคนไทยทุกคนทั้ง ๆ ที่ไม่เคยคิดเช่นนั้นมาก่อน แม้ในวันนี้ก็ยังไม่มีใครเขา “ขาดความจงรักภักดี” แต่พวกเผด็จการยังคง ตอกย้ำ กล่าวหาพวกคนเสื้อแดงว่าไม่รักเจ้า

ผมอยากจะถามว่าพวกเขา “ยัดเยียด” ให้เกิดกระแสเช่นนั้นก็เพราะ พวกเขาหลงเข้าใจผิดไปกับ “กลลวง” ของคนที่เกลียดชังสังคมเก่า ที่แฝงตัวอยู่ ในหมู่อำมาตย์ พวกเขามีหัวใจปรารถนาอยากล้มล้างสังคมเก่า จึงหาวิธีการ ล้มล้างด้วยการ “ยัดเยียด” ข้อหา เพื่อจะได้สร้างกระแสกดดันให้เกิดความ ขัดแย้งขึ้นมา จะได้เป็นต้นเหตุให้คนไทยทะเลาะกันเอง

การยัดเยียดอย่างเดียวยังไม่พอ เพราะมันไม่ช่วยให้เกิดการกดดัน ที่ร้อนแรง ดังนั้นพวกเขาจึงใช้ “ไม้แข็ง” ประกาศ กม. มั่นคง จะได้เกิด ความร้อนแรงมากมาย

ถึงแม้ว่าจะประกาศ กม.ความมั่นคงแล้วก็ตาม หากไม่สามารถกดดัน ให้เกิดเรื่องนี้ได้ พวกเผด็จการก็จะหาทาง “ยกระดับ” ให้ร้อนแรงยิ่งขึ้น นั้นก็คืออาจจะมีการใช้กำลังเข้าปราบปราม เช่นการใช้แก๊สน้ำตา หรือการใช้ รถทหารตีคนเสื้อแดงให้ถอยร่น โดยอ้างว่าเป็นการสลายฝูงชน แล้วก็อ้าง ต่อไปว่าเพื่อความมั่นคงของสถาบันพระมหากษัตริย์

มันเป็นความชั่วช้าที่พวกมันทำกันเอง ผมอยากเขียนทบทวนความทรงจำว่า ปัญหาที่คนเสื้อแดงเขาร้องหา ไม่หยุดหย่อน ได้แก่การร้องหาความยุติธรรม แต่พวกเผด็จการทำเป็น หูทวนลม ไม่สนใจต่อข้อเรียกร้องในทุกกรณี ดังจะเห็นได้จากการแต่งตั้ง นายกษิต ภิรมย์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ รวมไปถึง การตั้ง “แกนนำ” พันธมิตรฯเข้าร่วมทำงานกับรัฐบาล ย่อมแสดงให้เห็น ถึงการใช้อำนาจเถื่อนด้วยหัวใจเผด็จการที่ไม่สนใจต่อคำทักท้วง

คนเสื้อแดงทักท้วนเรื่องความไม่เป็นธรรมด้วยความเจ็บปวดสุด จะพรรณนา จะทักท้วงด้วยเสียงอันดังเพียงไร ก็ไม่ผิดกับเสียงแมลงหวี่ แมลงวัน อันเป็นสาเหตุทำให้เกิดความคับแค้นใจอย่างแสนสาหัส

ประเทศไทยอันเป็นที่รักจึงเต็มไปด้วยความสับสน ความสับสนในครั้งนี้ จะยังไม่ร้ายแรงดอกครับ เพราะคนเสื้อแดง เขาจะไม่บุกไปบ้านพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ รวมทั้งคนเสื้อแดงจะไม่กระทำ อะไรรุนแรงต่อบ้านเมือง

แต่การแห่ออกมาด่าแหลก ...ห้ามไม่ได้ ! ลำพังแค่ด่าแหลก จะไม่ทำให้บ้านเมืองลุกเป็นไฟดอกครับ แต่ที่ จะลุกเป็นไฟตามที่ผมได้ตั้งชื่อตอนที่ ๔๑ เอาไว้ว่า “ระวังแผ่นดิน จะลุกเป็นไฟ” มันจะเกิดจากความชั่วช้าของพวก ๙ วงเล็บพากัน โหมกระหน่ำ เรียกร้องให้ปราบปรามคนเสื้อแดงให้สิ้นแผ่นดิน

เสียงปืนดังขึ้นเมื่อใด
คนเสื้อแดงถูกยิงตายเมื่อใด
ปราบปรามเหมือนเมืองเถื่อนเมื่อใด

เมื่อนั้นแล...แผ่นดินอันเป็นที่รักยิ่งของคนไทยทุกคนจะเปลี่ยน เป็นสนามรบ คนไทยจะฆ่ากันเองราวกับว่าไม่ใช่คนที่เกิดมาจากสายพันธุ์ เดียวกัน วิธีแก้ปัญหานี้มีอยู่ ๒ แนวทาง ดังนี้

หนึ่ง : ให้สร้างกฎหมายปรองดองระบอบประชาธิปไตยขึ้นมา ทำหน้าที่ปรองดองคนในชาติให้ได้ หรือ
สอง : ยุบสภา
การ “ยุบสภา”

จะช่วยให้หัวอกที่เดือดปุดๆลดอุณหภูมิลงมา อันจะเป็นการระบายความร้อนให้บินออกไปจากหม้อต้มน้ำร้อน ผมขอเรียกร้องให้ยุบสภา โดยด่วน เพราะว่าถ้าขืนปล่อยไว้ให้รัฐบาลเส็งเคร็ง รับผิดชอบประเทศต่อไป ประเทศไทยจะไม่พ้นแผ่นดินลุกเป็นไฟ ?!

จบบทที่ ๔๑ / สอาด จันทร์ดี

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น